เมนู

สึกไปเท่านี้ วานนี้สึกไปเท่านี้ วานซืนนี้สึกไปเท่านี้ มีความรู้แต่เพียงว่า
ด้ามมีดนั้นสึก ๆ แม้ฉันใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบเนือง ๆ
ซึ่งภาวนานุโยคอยู่ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ถึงแม้จะไม่มีความรู้อย่างนี้ว่า
วันนี้ อาสวะทั้งหลายของเราสิ้นไปเท่านี้ วานนี้สิ้นไปเท่านี้ วานซืนนี้
สิ้นไปเท่านี้ ก็จริง แต่เธอก็รู้ว่าสิ้นไปแล้ว ๆ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อ
เรือเดินสมุทร ที่เขาผูกด้วยเชือกผูกคือหวาย แช่อยู่ในน้ำ 6 เดือน
ในฤดูหนาว ลากขึ้นบก เชือกคือหวาย ที่ถูกลมและแดดพัดเผา ถูก
เมฆฝนตกชะรด ก็จะเปื่อยผุไป โดยไม่ยากฉันใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เมื่อภิกษุประกอบเนือง ๆ ซึ่งภาวนานุโยคอยู่ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน
สัญโญชน์ก็จะเสื่อมสิ้นไปโดยไม่ยากเลย.
จบ นาวาสูตรที่ 9

อรรถกถานาวาสูตรที่ 9



พึงทราบวินิจฉัยในนาวาสูตรที่ 9 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า เสยฺยถาปิ ภิกฺขเว กุกฺกุฏิยา อณฺฑานิ ความว่า พระผู้มี-
พระภาคเจ้าตรัสอุปมา 2 ข้อนี้ไว้ ด้วยอำนาจธรรมที่เป็นฝ่ายดำ และ
ฝ่ายขาว1. บรรดาอุปมา 2 ข้อนั้น อุปมาว่าด้วยธรรมที่เป็นฝ่ายดำ
ยังไม่ให้สำเร็จประโยชน์ (แต่) อุปมาว่าด้วยธรรมที่เป็นฝ่ายขาว
นอกนี้ทำให้สำเร็จประโยชน์ได้แล. พึงทราบเนื้อความของอุปมา
ว่าด้วยธรรมฝ่ายขาว2 อย่างนี้.
บทว่า เสยฺยถา เป็นนิบาต ใช้ในความหมายเป็นข้ออุปมา.
1 ปาฐะว่า คณฺหปกฺขสุกฺขปกฺขวเสน ฉบับพม่าเป็น กณฺหปกฺขสุกฺกปกฺขวเสน แปลตามฉบับพม่า.
2. ปาฐะว่า สุกฺขปกฺขอุปมาย ฉบับพม่าเป็น สุกฺกปกฺขอุปมาย แปลตามฉบับพม่า.